Dream Plastic Surgery
Dream Plastic Surgery โรงพยาบาลศัลยกรรมเกาหลีที่ดีที่สุด มุ่งเน้นความงามและความปลอดภัย
Dream Plastic Surgery เป็นโรงพยาบาลศัลยกรรมที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล ตั้งอยู่ใจกลางกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ ด้วยประสบการณ์มากกว่า 20 ปี Dream Plastic Surgery ยังคงเป็นผู้นำด้านการศัลยกรรมความงาม โดยมุ่งเน้นให้บริการที่มีคุณภาพสูงสุดและปลอดภัยที่สุด
ทำไมต้องเลือก Dream Plastic Surgery?
Dream Plastic Surgery มีความมุ่งมั่นในการสร้างความพึงพอใจให้กับผู้เข้ารับบริการ ด้วยการใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยและเทคนิคศัลยกรรมที่พัฒนาอย่างต่อเนื่อง โรงพยาบาลยังมีทีมแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญสูงและได้รับการฝึกอบรมมาอย่างดี ทำให้มั่นใจได้ว่าผลลัพธ์ที่ได้จะเป็นที่พึงพอใจและดูเป็นธรรมชาติ
บริการศัลยกรรมยอดนิยมที่ Dream Plastic Surgery
ที่ Dream Plastic Surgery เรามีบริการศัลยกรรมที่หลากหลาย เช่น ศัลยกรรมตาสองชั้น ศัลยกรรมจมูก ศัลยกรรมกรามและคาง ศัลยกรรมหน้าอก และการดูดไขมัน แต่ละการผ่าตัดได้รับการออกแบบเฉพาะบุคคลเพื่อตอบสนองความต้องการและเป้าหมายของผู้ป่วย
ความปลอดภัยคือสิ่งสำคัญที่สุด
Dream Plastic Surgery ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของผู้ป่วยเป็นอันดับแรก ด้วยมาตรฐานความปลอดภัยที่เข้มงวดและการดูแลที่ใส่ใจในทุกรายละเอียด ไม่ว่าจะเป็นการตรวจสุขภาพก่อนผ่าตัดหรือการติดตามผลหลังผ่าตัด ทีมแพทย์และพยาบาลของเราพร้อมให้การดูแลตลอด 24 ชั่วโมง
รีวิวจากผู้ป่วยที่พึงพอใจ
ผู้ป่วยที่เคยเข้ารับบริการที่ Dream Plastic Surgery มักพูดถึงประสบการณ์ที่ดีและผลลัพธ์ที่สวยงามซึ่งเกินความคาดหมาย รีวิวที่ดีและความเชื่อมั่นจากผู้ป่วยทำให้ Dream Plastic Surgery ยังคงเป็นตัวเลือกแรกสำหรับผู้ที่ต้องการศัลยกรรมในเกาหลี
รายชื่อแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในด้านต่างๆ ของโรงพยาบาลศัลยกรรมดรีม (Dream Plastic Surgery)
คุณหมอคิมยองจุน:
คุณหมอยูวอนแจ:
คุณหมอโจฮเยอิน:
คุณหมอยูอันนา:
คุณหมอปาร์คลีฮยอน:
คุณหมอจองซูยอง:
คุณหมอโจซึงอู:
ทำไมต้อง DREAM
1. Dream Plastic Surgery โรงพยาบาลศัลยกรรมชั้นนำในเกาหลี ที่ได้รับการยอมรับใน ด้านความงามและความปลอดภัย ด้วยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย ทำให้เราเป็นที่เลือกของผู้ที่ต้องการทำศัลยกรรมในเกาหลี"
- บริการที่โดดเด่น:** "เน้นความปลอดภัยเป็นหลักในทุกขั้นตอนการศัลยกรรม ตั้งแต่การปรึกษาไปจนถึงการดูแลหลังการผ่าตัด"
2. **บริการที่โดดเด่น (Key Services)**
- **ศัลยกรรมใบหน้า (Facial Contouring Surgery):** "ที่ Dream Plastic Surgery เรามีบริการศัลยกรรมใบหน้าที่ครบครัน ไม่ว่าจะเป็นการทำ V-line, การตัดกราม, และการเสริมคาง เพื่อให้ใบหน้าดูเรียวและสมดุล"
- **ศัลยกรรมจมูก (Rhinoplasty):** "ปรับรูปทรงจมูกให้ดูเป็นธรรมชาติและสวยงาม ด้วยเทคนิคที่ทันสมัยและความเชี่ยวชาญของแพทย์เฉพาะทาง"
- **ศัลยกรรมตาสองชั้น (Double Eyelid Surgery):** "การทำตาสองชั้นที่โรงพยาบาลดรีม มุ่งเน้นการสร้างดวงตาที่สดใสและดูกลมโตอย่างเป็นธรรมชาติ"
- **การดูแลหลังการผ่าตัด (Post-Operative Care):** "เรามีระบบการดูแลหลังการผ่าตัดอย่างละเอียด เพื่อให้คุณฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัย"
3. **ความปลอดภัยและเทคโนโลยี (Safety and Technology)**
- **การใช้เทคโนโลยีทันสมัย:** "เรานำเทคโนโลยี 3D Simulation มาใช้ในการวางแผนการผ่าตัด เพื่อให้เห็นภาพผลลัพธ์ก่อนการทำจริง"
- **มาตรการความปลอดภัย:** "โรงพยาบาลดรีมให้ความสำคัญกับมาตรการความปลอดภัยสูงสุดในทุกขั้นตอน รวมถึงการมีวิสัญญีแพทย์คอยดูแลตลอดการผ่าตัด"
4. **รีวิวและความประทับใจจากผู้ใช้บริการ (Patient Testimonials)**
- **เรื่องราวความสำเร็จ:** "ฟังจากผู้ที่เคยใช้บริการกับเรา ความเปลี่ยนแปลงที่น่าประทับใจ และผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติที่พวกเขาได้รับ"
- "รีวิวจากผู้ป่วยจริง ที่ได้รับการบริการจาก Dream Plastic Surgery ซึ่งสะท้อนถึงความพึงพอใจและความเชื่อมั่นในบริการของเรา"
5. **การเตรียมตัวก่อนและหลังศัลยกรรม (Pre and Post Surgery Tips)**
- **คำแนะนำการเตรียมตัวก่อนการผ่าตัด:** "คำแนะนำที่สำคัญสำหรับผู้ที่กำลังพิจารณาทำศัลยกรรมกับเรา"
- **การดูแลหลังการผ่าตัด:** "วิธีการดูแลตัวเองหลังการผ่าตัดเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด"
6. **ติดต่อเรา (Contact Us)**
- **ข้อมูลการติดต่อ:** "หากคุณสนใจบริการศัลยกรรมเกาหลีที่ปลอดภัยและมีคุณภาพ เพื่อปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญของเรา"
- **การจองคิวและปรึกษาออนไลน์:** "จองคิวหรือปรึกษาออนไลน์กับเราได้ง่าย ๆ เพื่อเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการเปลี่ยนแปลงที่คุณต้องการได้ที่ LINE: @AnnyeongAgency
รายละเอียดการไปศัลยกรรม www.อันยองศัลยกรรมเกาหลี.com
ดารา ไอดอลเกาหลี ทำศัลยกรรมที่โรงพยาบาลดรีม ประเทศเกาหลีใต้
เป็นที่รู้จักในวงการศัลยกรรมความงามและมีชื่อเสียงในหมู่ดาราไอดอลเกาหลี หลายคนเลือกทำศัลยกรรมที่นี่ เนื่องจากโรงพยาบาลมีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและเทคโนโลยีที่ทันสมัย ซึ่งช่วยให้ได้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติและสวยงาม แม้ว่าจะไม่มีการเปิดเผยชื่อดาราหรือไอดอลที่ทำศัลยกรรมที่โรงพยาบาลนี้โดยตรง แต่มีข่าวสารและรายงานในสื่อที่ระบุถึงการทำศัลยกรรมของคนในวงการบันเทิงเกาหลีที่เลือกใช้บริการจากโรงพยาบาลนี้อย่างต่อเนื่อง โรงพยาบาลดรีม เกาหลี เป็นที่รู้จักในด้านการทำศัลยกรรมความงาม รวมถึงการทำศัลยกรรมตา เช่น การทำตาสองชั้น หรือการแก้ไขปัญหาตาเปลือกตาหย่อนคล้อย
13.png)
การศัลยกรรมตา ที่โรงพยาบาลดรีม
สไตล์ตา ที่ Dream Plastic Surgery
1. สไตล์ตาสองชั้นแบบธรรมชาติ (Natural Double Eyelid)
เป็นสไตล์ที่ได้รับความนิยมมากในเกาหลี เน้นการสร้างชั้นตาที่ดูเป็นธรรมชาติ รอยพับตาที่ไม่สูงเกินไป และมีความอ่อนโยน เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการให้ดวงตาดูกลมโตขึ้นโดยไม่สูญเสียความเป็นธรรมชาติ
2. สไตล์ตาสองชั้นแบบกลมโต (Doll-like Double Eyelid)
สไตล์นี้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการให้ดวงตาดูโตขึ้นและเด่นชัดมากขึ้น รอยพับตาจะสูงขึ้นเล็กน้อยเพื่อให้ดวงตาดูมีขนาดใหญ่และกลมคล้ายตุ๊กตา
3. สไตล์ตาสองชั้นแบบเปิดหัวตา (Inner Corner Fold Double Eyelid)
เป็นการผ่าตัดที่รวมกับการเปิดหัวตาเพื่อให้ดวงตาดูกว้างขึ้น การเปิดหัวตาช่วยลดระยะห่างระหว่างดวงตา ทำให้ใบหน้าดูสมดุลมากขึ้น
4. สไตล์ตาสองชั้นแบบเปิดหางตา (Outer Corner Fold Double Eyelid)
สไตล์นี้จะทำให้ดวงตาดูกว้างขึ้นและยาวขึ้นโดยการเปิดหางตา เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการให้ดวงตาดูยาวและเรียว
5. สไตล์ตาสองชั้นแบบเฉพาะบุคคล (Customized Double Eyelid)
Dream Plastic Surgery จะออกแบบชั้นตาตามความต้องการและลักษณะใบหน้าของแต่ละคน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่เป็นเอกลักษณ์และเหมาะสมกับผู้ป่วยมากที่สุด
แต่ละสไตล์ที่ Dream Plastic Surgery จะถูกปรับแต่งให้เหมาะสมกับโครงสร้างใบหน้าและความต้องการของผู้ป่วย เพื่อให้ได้ดวงตาที่สวยงามและดูเป็นธรรมชาติที่สุดค่ะ
ที่ Dream Plastic Surgery มีเทคนิคการผ่าตัดศัลยกรรมตาหลายรูปแบบ
1. **เทคนิคการกรีด (Incisional Method)
- **รายละเอียด:** เป็นการสร้างชั้นตาด้วยการกรีดที่หนังตา เทคนิคนี้เหมาะสำหรับผู้ที่มีหนังตาหนา มีไขมันหรือผิวหนังส่วนเกินในบริเวณเปลือกตามาก
- **ข้อดี:** สามารถปรับรูปร่างชั้นตาได้ตามต้องการ และมีความคงทนถาวร ผลลัพธ์จะคงอยู่ได้นาน
- **ข้อเสีย:** ใช้เวลาฟื้นตัวนานกว่าเมื่อเทียบกับวิธีอื่น เนื่องจากเป็นการผ่าตัดที่ต้องมีการกรีดผิวหนัง
2. **เทคนิคการเย็บ (Non-Incisional Method)
- **รายละเอียด:** วิธีนี้ไม่ต้องกรีดที่เปลือกตา แต่ใช้การเย็บเพื่อสร้างชั้นตา เหมาะสำหรับผู้ที่มีหนังตาบางและไม่มีไขมันส่วนเกินมาก
- **ข้อดี:** การฟื้นตัวเร็วกว่า แผลหายเร็ว และไม่มีรอยกรีดที่เห็นชัดเจน
- **ข้อเสีย:** อาจมีความเสี่ยงที่ชั้นตาจะหลุดหรือเปลี่ยนรูปในระยะยาว
3. เทคนิคการผสมผสาน (Partial Incision Method)
- **รายละเอียด:** เป็นเทคนิคที่ผสมผสานระหว่างการกรีดและการเย็บ โดยมีการกรีดเพียงบางส่วน ทำให้สามารถปรับรูปร่างชั้นตาได้มากขึ้น แต่ยังคงความเป็นธรรมชาติ
- **ข้อดี:** ฟื้นตัวเร็วกว่าเทคนิคการกรีดเต็มรูปแบบ และผลลัพธ์มีความคงทนถาวรกว่าเทคนิคการเย็บเพียงอย่างเดียว
- **ข้อเสีย:** มีแผลที่เห็นได้น้อยแต่ยังต้องใช้เวลาในการฟื้นตัว
4. **เทคนิคการผ่าตัดเปิดหัวตา (Epicanthoplasty)
- **รายละเอียด:** การผ่าตัดเปิดหัวตาเพื่อลดความโค้งของรอยพับหัวตา ทำให้ดวงตาดูกว้างขึ้นและมีความสมดุล
- **ข้อดี:** ช่วยทำให้ดวงตาดูยาวและกว้างขึ้น ช่วยปรับสมดุลของใบหน้าได้ดี
- **ข้อเสีย:** ต้องการความเชี่ยวชาญในการผ่าตัดเพื่อให้ผลลัพธ์เป็นธรรมชาติ
5. **เทคนิคการผ่าตัดเปิดหางตา (Lateral Canthoplasty)
- **รายละเอียด:** เป็นการผ่าตัดเปิดหางตาเพื่อลดความแคบของดวงตา ทำให้ดวงตาดูยาวขึ้นและเปิดกว้างมากขึ้น
- **ข้อดี:** เพิ่มความกว้างของดวงตาและช่วยให้ดวงตาดูยาวและเรียวขึ้น
- **ข้อเสีย:** ต้องดูแลหลังการผ่าตัดอย่างใกล้ชิดเพื่อป้องกันการเกิดแผลเป็น
6. **เทคนิคการยกหางตา (Ptosis Correction)
- **รายละเอียด:** การยกหางตาเพื่อแก้ไขปัญหาหนังตาตกที่ทำให้ดวงตาดูเหนื่อยล้า โดยจะทำให้ดวงตาดูสดใสและมีชีวิตชีวามากขึ้น
- **ข้อดี:** ปรับปรุงทั้งเรื่องความสวยงามและการทำงานของกล้ามเนื้อตา ช่วยให้ดวงตาดูกลมโตและเปิดกว้างขึ้น
- **ข้อเสีย:** เป็นการผ่าตัดที่มีความซับซ้อน ต้องใช้เวลาในการฟื้นตัวพอสมควร
เทคนิคเหล่านี้ที่ Dream Plastic Surgery ได้รับการพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับผลลัพธ์ที่ดีที่สุด และมีความปลอดภัยสูงสุดในการผ่าตัดแต่ละครั้งค่ะ
ANNYEONG AGENCY ให้มืออาชีพดูแลคุณ
ระยะเวลาพักฟื้นหลังจากการผ่าตัดศัลยกรรมตา ที่ Dream Plastic Surgery
1. **เทคนิคการกรีด (Incisional Method)
- **ระยะเวลาพักฟื้น:** ประมาณ 2-4 สัปดาห์
- **รายละเอียด:** เนื่องจากเป็นการกรีดที่เปลือกตา อาจมีอาการบวมและช้ำมากกว่าวิธีอื่นๆ ในช่วง 1-2 สัปดาห์แรก อาการบวมจะลดลงเรื่อยๆ แต่ยังต้องระวังในการใช้ชีวิตประจำวัน เช่น หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนักหรือการขยี้ตา
2. **เทคนิคการเย็บ (Non-Incisional Method)
- **ระยะเวลาพักฟื้น:** ประมาณ 1-2 สัปดาห์
- **รายละเอียด:** เนื่องจากไม่มีการกรีด แผลจะหายเร็วกว่า มีอาการบวมและช้ำเพียงเล็กน้อย สามารถกลับไปทำกิจวัตรประจำวันได้เร็วกว่าวิธีอื่นๆ แต่ยังต้องระวังไม่ให้แผลเกิดการติดเชื้อ
3. **เทคนิคการผสมผสาน (Partial Incision Method)
- **ระยะเวลาพักฟื้น:** ประมาณ 2-3 สัปดาห์
- **รายละเอียด:** การฟื้นตัวจะใช้เวลาน้อยกว่าวิธีการกรีดเต็มรูปแบบ อาการบวมและช้ำจะลดลงภายใน 1-2 สัปดาห์ แต่ต้องระวังไม่ให้กระทบกระเทือนบริเวณตา
4. **เทคนิคการผ่าตัดเปิดหัวตา (Epicanthoplasty)
- **ระยะเวลาพักฟื้น:** ประมาณ 1-2 สัปดาห์
- **รายละเอียด:** อาจมีอาการบวมและแดงเล็กน้อยบริเวณหัวตาในช่วงสัปดาห์แรก ต้องระวังไม่ให้แผลติดเชื้อ และควรหลีกเลี่ยงการใช้เครื่องสำอางบริเวณรอบดวงตาในช่วงแรก
5. **เทคนิคการผ่าตัดเปิดหางตา (Lateral Canthoplasty)
- **ระยะเวลาพักฟื้น:** ประมาณ 2-3 สัปดาห์
- **รายละเอียด:** การฟื้นตัวอาจใช้เวลานานขึ้นเนื่องจากเป็นการเปิดหางตา อาการบวมและช้ำจะค่อยๆ ลดลงในช่วง 2 สัปดาห์แรก ต้องหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่อาจทำให้เกิดแรงกระแทกบริเวณดวงตา
6. **เทคนิคการยกหางตา (Ptosis Correction)
- **ระยะเวลาพักฟื้น:** ประมาณ 3-4 สัปดาห์
- **รายละเอียด:** การยกหางตาอาจทำให้มีอาการบวมและช้ำมากกว่าเทคนิคอื่นๆ ต้องใช้เวลาฟื้นตัวมากกว่า โดยเฉพาะในกรณีที่ต้องมีการปรับกล้ามเนื้อบริเวณตา อาการบวมจะค่อยๆ ลดลงในช่วง 2-3 สัปดาห์
ANNYEONG AGENCY ขอแนะนำสำหรับการพักฟื้น:
- **ประคบเย็น:** ในช่วงแรกๆ ควรประคบเย็นเพื่อลดอาการบวม
- **ยกศีรษะสูง:** ขณะนอนหลับ ควรยกศีรษะสูงกว่าระดับปกติเพื่อช่วยลดอาการบวม
- **หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนัก:** ในช่วง 2-4 สัปดาห์แรกควรหลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนักหรือกิจกรรมที่อาจทำให้เกิดแรงกระแทก
- **งดการใช้เครื่องสำอาง:** ในช่วงแรกควรหลีกเลี่ยงการใช้เครื่องสำอางบริเวณรอบดวงตา
- **ติดตามคำแนะนำแพทย์:** ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด รวมถึงการนัดตรวจตามกำหนด
การพักฟื้นหลังจากการผ่าตัดศัลยกรรมตาต้องการความอดทนและการดูแลที่ดี เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาสวยงามและคงทนถาวรค่ะ
รีวิวศัลยกรรมที่ DREAM PLASTIC SURGERY
ศัลยกรรมจมูก โรงพยาบาลดรีม
บริการที่ได้รับความนิยม โดยมีหลายประเภท เช่น การเสริมจมูก (Rhinoplasty) ซึ่งอาจทำโดยการใช้ซิลิโคนหรือกระดูกอ่อนเพื่อปรับรูปทรงจมูกให้ดูสวยงามและเข้ากับใบหน้า นอกจากนี้ยังมีการแก้ไขจมูกที่ไม่สมดุลหรือมีปัญหาเช่นจมูกเบี้ยวหรือหัก การทำศัลยกรรมที่นี่มักจะมีการใช้เทคนิคที่ทันสมัยและคำนึงถึงความต้องการเฉพาะของผู้รับบริการเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติและสวยงาม
สไตล์การผ่าตัดศัลยกรรมจมูก DREAM
มีหลายแบบที่ออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการและลักษณะใบหน้าของผู้ป่วยแต่ละคน สไตล์ต่างๆ ที่นิยม ได้แก่:
1. **สไตล์จมูกแบบธรรมชาติ (Natural Nose)
- **รายละเอียด:** เน้นการปรับรูปทรงจมูกให้ดูเป็นธรรมชาติและสมดุลกับใบหน้า เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเปลี่ยนแปลงรูปร่างจมูกเล็กน้อย เช่น การยกปลายจมูกหรือปรับสันจมูก แต่ยังคงให้ดูเป็นธรรมชาติและไม่โดดเด่นเกินไป
2. **สไตล์จมูกแบบสันสูง (High Bridge Nose)
- **รายละเอียด:** เป็นการปรับสันจมูกให้สูงและคมชัดขึ้น เหมาะสำหรับผู้ที่มีสันจมูกต่ำหรือไม่มีสันจมูกเลย วิธีนี้จะทำให้จมูกดูโดดเด่นและเพิ่มมิติให้กับใบหน้า
3. **สไตล์จมูกแบบเชิด (Upturned Nose)
- **รายละเอียด:** สไตล์นี้มุ่งเน้นการปรับปลายจมูกให้เชิดขึ้นเล็กน้อย ช่วยให้จมูกดูสวยงามและมีความเป็นมิตร เหมาะสำหรับผู้ที่มีปลายจมูกหย่อนคล้อยหรือยาวเกินไป
4. **สไตล์จมูกแบบสโลป (Sloped Nose)
- **รายละเอียด:** การปรับสันจมูกให้มีความโค้งนุ่มนวลจากหัวตาถึงปลายจมูก เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการจมูกที่ดูอ่อนโยนและหวาน สามารถปรับแต่งให้เหมาะกับลักษณะใบหน้าของแต่ละคนได้
5. **สไตล์จมูกแบบยุโรป (European Nose)
- **รายละเอียด:** เป็นสไตล์ที่ได้แรงบันดาลใจจากจมูกของชาวยุโรป ซึ่งมักจะมีสันจมูกที่สูงและปลายจมูกที่แคบ วิธีนี้จะช่วยให้ใบหน้าดูมีความเฉียบคมและมิติที่ชัดเจนมากขึ้น
6. **สไตล์จมูกแบบเฉพาะบุคคล (Customized Nose)
- **รายละเอียด:** Dream Plastic Surgery จะออกแบบและปรับแต่งรูปทรงจมูกตามความต้องการและลักษณะใบหน้าของแต่ละบุคคล เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดและเหมาะสม
แต่ละสไตล์จมูกที่ Dream Plastic Surgery ถูกออกแบบมาให้เหมาะสมกับโครงสร้างใบหน้าและบุคลิกภาพ การเลือกสไตล์จมูกที่เหมาะสมที่สุดควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อรับคำแนะนำและการประเมินอย่างละเอียด โดยส่งรูปใบหน้ามาให้คุณหมอวิเคราะห์ก่อนที่ LINE: @AnnyeongAgency
ศัลยกรรมจมูกเหมาะกับ
กลุ่มคนที่มีปัญหาหรือความต้องการในการปรับเปลี่ยนรูปร่างของจมูกตามปัจจัยต่างๆ ดังนี้:
1. **ผู้ที่มีรูปร่างจมูกที่ไม่สมส่วน
- **รายละเอียด:** ผู้ที่รู้สึกว่าจมูกของตนมีขนาดใหญ่เกินไป หรือเล็กเกินไปเมื่อเปรียบเทียบกับใบหน้า หรือมีรูปร่างที่ไม่เข้ากันกับลักษณะใบหน้า เช่น สันจมูกต่ำหรือปลายจมูกที่ไม่สวยงาม
2. **ผู้ที่มีปัญหาการหายใจ
- **รายละเอียด:** ผู้ที่มีปัญหาการหายใจจากภาวะการคดงอของจมูกหรือความผิดปกติของช่องจมูก เช่น การเป็นเยื่อบุจมูกบวม (deviated septum) สามารถรับการผ่าตัดเพื่อปรับแก้ปัญหาการหายใจได้
3. **ผู้ที่มีการบาดเจ็บหรือเกิดอุบัติเหตุ
- **รายละเอียด:** ผู้ที่ได้รับการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุที่ส่งผลกระทบต่อรูปร่างของจมูก เช่น การแตกหักของกระดูกจมูก หรือการเปลี่ยนแปลงรูปร่างที่เกิดจากการบาดเจ็บ
4. **ผู้ที่ต้องการปรับเปลี่ยนลักษณะจมูกเพื่อเพิ่มความมั่นใจ
- **รายละเอียด:** ผู้ที่ต้องการปรับปรุงรูปร่างจมูกเพื่อเพิ่มความมั่นใจในตัวเอง เช่น การยกปลายจมูกหรือเพิ่มความคมชัดของสันจมูก
5. **ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับความสมดุลของใบหน้า
- **รายละเอียด:** ผู้ที่รู้สึกว่าจมูกทำให้ใบหน้าดูไม่สมดุลหรือไม่เป็นธรรมชาติ และต้องการปรับเปลี่ยนจมูกเพื่อให้ใบหน้าดูสมดุลและมีมิติ
6. **ผู้ที่มีปัญหาจมูกหลังการผ่าตัดก่อนหน้านี้
- **รายละเอียด:** ผู้ที่เคยทำศัลยกรรมจมูกแล้วไม่พอใจผลลัพธ์ หรือมีปัญหาต่างๆ จากการทำศัลยกรรมครั้งก่อน เช่น การทำศัลยกรรมซ้ำ (revision rhinoplasty) เพื่อลดข้อผิดพลาดหรือปัญหาที่เกิดขึ้น
การตัดสินใจทำศัลยกรรมจมูกควรปรึกษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อประเมินปัญหาและความต้องการของแต่ละบุคคลอย่างละเอียด และเพื่อรับคำแนะนำที่เหมาะสมในการเลือกเทคนิคการผ่าตัดที่ดีที่สุดสำหรับตนเองค่ะ www.อันยองศัลยกรรมเกาหลี.com
ศัลยกรรมโครงหน้า โรงพยาบาลดรีม
การปรับแต่งโครงสร้างใบหน้าเพื่อให้มีความสมดุลและดูสวยงามมากขึ้น ซึ่งรวมถึงบริการต่างๆ เช่น การทำกรามให้เรียว (Jaw Reduction) การเสริมโหนกแก้ม (Cheekbone Augmentation) การปรับรูปหน้าผากและคาง (Forehead and Chin Augmentation) โดยการใช้เทคนิคที่ทันสมัยและทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ตรงตามความต้องการของผู้รับบริการ และยังคำนึงถึงความเป็นธรรมชาติและความปลอดภัยเป็นหลัก
สไตล์โครงหน้า Dream Plastic Surgery
มีการออกแบบและปรับแต่งโครงหน้าให้เหมาะสมกับลักษณะใบหน้าและความต้องการของผู้ป่วย โดยใช้เทคนิคที่หลากหลายเพื่อสร้างโครงหน้าให้สวยงามและสมดุล นี่คือสไตล์โครงหน้าที่นิยม:
1. สไตล์โครงหน้าที่มีความเป็นธรรมชาติ (Natural Face Contouring)
- **รายละเอียด:** การออกแบบโครงหน้าเพื่อให้มีลักษณะเป็นธรรมชาติและไม่โดดเด่นเกินไป เช่น การปรับรูปกรามและคางให้มีความเป็นธรรมชาติ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความเปลี่ยนแปลงที่ดูเป็นธรรมชาติและไม่ทำให้ใบหน้าดูแปลกตา
2. สไตล์โครงหน้าสำหรับรูปหน้าเรียว (V-Line Contouring)
- **รายละเอียด:** การปรับแต่งให้โครงหน้าเรียวและมีลักษณะเป็นรูปตัว V เช่น การลดขนาดกรามและปรับรูปคางให้มีลักษณะคมชัดและเรียว เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการให้ใบหน้าดูเรียวและมีความเซ็กซี่
3. สไตล์โครงหน้ากลม (Round Face Contouring)
- **รายละเอียด:** การปรับแต่งเพื่อให้โครงหน้าดูกลมและนุ่มนวล เช่น การเพิ่มความโดดเด่นให้กับโหนกแก้มและลดขนาดกราม เหมาะสำหรับผู้ที่มีใบหน้ากลมและต้องการให้ดูนุ่มนวลขึ้น
4. สไตล์โครงหน้าสำหรับรูปหน้าหญิง (Feminine Face Contouring)
- **รายละเอียด:** การปรับแต่งโครงหน้าเพื่อให้มีลักษณะของความเป็นหญิง เช่น การปรับรูปกรามให้เรียวและปรับรูปคางให้ดูเล็กลง เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการให้ใบหน้ามีความละเอียดอ่อนและมีความเป็นผู้หญิงมากขึ้น
5. สไตล์โครงหน้าสำหรับรูปหน้าชาย (Masculine Face Contouring)
- **รายละเอียด:** การปรับแต่งเพื่อให้โครงหน้ามีลักษณะเฉียบคมและแข็งแรง เช่น การเพิ่มความโดดเด่นให้กับกรามและคาง เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการให้ใบหน้าดูแข็งแรงและมีความเป็นชายมากขึ้น
6. สไตล์โครงหน้าสำหรับการยกกระชับ (Face Lifting)
- **รายละเอียด:** การยกกระชับผิวหนังและกล้ามเนื้อของใบหน้าเพื่อลดสัญญาณแห่งความแก่ เช่น การทำ Facelift หรือการยกคิ้วและแก้มเพื่อให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์และกระชับ
7. สไตล์โครงหน้าที่มีความสมดุล (Balanced Face Contouring)
- **รายละเอียด:** การออกแบบโครงหน้าให้มีความสมดุลและสวยงามโดยรวม เช่น การปรับขนาดกราม คาง และโหนกแก้มให้เข้ากันได้ดี และไม่ทำให้ใบหน้าดูหนักหรือเบาเกินไป การเลือกสไตล์โครงหน้าที่เหมาะสมที่สุดควรได้รับการปรึกษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ตรงตามความต้องการและเหมาะสมกับลักษณะใบหน้าของแต่ละบุคคลค่ะ ส่งประเมินก่อนที่ LINE: @AnnyeongAgency
โครงหน้าเหมาะกับ
การปรับแต่งโครงหน้าในศัลยกรรมมีหลายสไตล์ที่เหมาะสมกับกลุ่มบุคคลที่แตกต่างกันตามลักษณะใบหน้าและความต้องการของแต่ละคน นี่คือคำแนะนำเกี่ยวกับสไตล์โครงหน้าที่เหมาะสม:
1. **สไตล์โครงหน้าที่มีความเป็นธรรมชาติ (Natural Face Contouring)**
- **เหมาะกับ:** ผู้ที่ต้องการการเปลี่ยนแปลงที่ดูเป็นธรรมชาติและไม่เด่นชัด เช่น ผู้ที่มีใบหน้าที่มีลักษณะดีอยู่แล้วแต่ต้องการการปรับปรุงเล็กน้อยเพื่อให้มีความสมดุลและดูดีขึ้น
2. **สไตล์โครงหน้าสำหรับรูปหน้าเรียว (V-Line Contouring)**
- **เหมาะกับ:** ผู้ที่มีใบหน้ากว้างหรือรูปหน้าไม่เรียว และต้องการให้ใบหน้าดูเรียวและมีความเซ็กซี่มากขึ้น เช่น ผู้ที่ต้องการปรับขนาดกรามและคางให้ดูแคบลงเพื่อสร้างลักษณะใบหน้าที่ดูเพรียว
3. **สไตล์โครงหน้ากลม (Round Face Contouring)**
- **เหมาะกับ:** ผู้ที่มีใบหน้ากลมหรือมีลักษณะใบหน้าที่ดูเต็มและนุ่มนวล ต้องการปรับลดขนาดกรามและเพิ่มความโดดเด่นให้กับโหนกแก้มเพื่อให้ใบหน้าดูสมดุลและเป็นธรรมชาติมากขึ้น
4. **สไตล์โครงหน้าสำหรับรูปหน้าหญิง (Feminine Face Contouring)**
- **เหมาะกับ:** ผู้ที่ต้องการให้ใบหน้าดูมีลักษณะเฉพาะของความเป็นหญิง เช่น ผู้ที่มีกรามกว้างหรือคางใหญ่ และต้องการปรับให้ใบหน้าดูละเอียดอ่อนและมีความเป็นผู้หญิงมากขึ้น
5. **สไตล์โครงหน้าสำหรับรูปหน้าชาย (Masculine Face Contouring)**
- **เหมาะกับ:** ผู้ที่ต้องการให้ใบหน้าดูมีลักษณะแข็งแรงและมีความเป็นชายมากขึ้น เช่น ผู้ที่ต้องการเพิ่มความโดดเด่นให้กับกรามและคางเพื่อให้ใบหน้าดูมีมิติและแข็งแรง
6. **สไตล์โครงหน้าสำหรับการยกกระชับ (Face Lifting)**
- **เหมาะกับ:** ผู้ที่มีปัญหาผิวหนังหย่อนคล้อยหรือมีสัญญาณแห่งความแก่ เช่น ผู้ที่ต้องการยกกระชับใบหน้าเพื่อให้ดูอ่อนเยาว์และกระชับ
7. **สไตล์โครงหน้าที่มีความสมดุล (Balanced Face Contouring)**
- **เหมาะกับ:** ผู้ที่ต้องการให้ใบหน้าดูมีความสมดุลและสวยงามโดยรวม เช่น ผู้ที่มีลักษณะใบหน้าที่ไม่สมส่วนหรือมีลักษณะเฉพาะที่ต้องการปรับเพื่อให้ใบหน้าดูดีขึ้น
การเลือกสไตล์โครงหน้าที่เหมาะสมควรพิจารณาจากลักษณะใบหน้าปัจจุบัน ความต้องการส่วนตัว และคำแนะนำจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดค่ะ
ศัลยกรรมวีไลน์ (V-line surgery) ที่โรงพยาบาลดรีม
การทำศัลยกรรมเพื่อปรับรูปหน้าด้านล่างให้มีลักษณะเรียวและเป็นรูปตัววี ซึ่งมักจะรวมถึงการตัดกรามเพื่อลดขนาดกรามและทำให้ใบหน้าดูมีมิติและเรียวมากขึ้น บางครั้งอาจมีการเสริมคางเพื่อให้หน้าเรียวมากยิ่งขึ้น การทำศัลยกรรมวีไลน์ที่โรงพยาบาลนี้มักจะใช้เทคนิคที่ทันสมัยและมีการวิเคราะห์รูปหน้าเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติและเหมาะสมกับบุคลิกของผู้รับบริการ
การตัดกราม โรงพยาบาลดรีม เกาหลี
เป็นกระบวนการศัลยกรรมที่ช่วยลดขนาดกรามเพื่อให้ใบหน้าดูเรียวและมีรูปทรงที่สวยงามมากขึ้น โดยการตัดกรามสามารถทำได้ทั้งการตัดกระดูกกรามเพื่อให้ใบหน้ามีมิติและความสมดุล หรือการดูดไขมันบริเวณกรามเพื่อลดความหนาของกราม โรงพยาบาลนี้มีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ในการทำศัลยกรรมกราม และมักจะใช้เทคนิคที่ทันสมัยเพื่อให้ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติและช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับผู้รับบริการ
ศัลยกรรมคาง โรงพยาบาลดรีม
เป็นการปรับแต่งรูปทรงคางเพื่อให้ใบหน้ามีความสมดุลและดูเรียวขึ้น การทำศัลยกรรมคางมักจะมีหลายวิธี เช่น การเสริมคางด้วยซิลิโคน (Chin Augmentation) การลดขนาดคาง (Chin Reduction) หรือการปรับรูปทรงของคางให้ดูชัดเจนยิ่งขึ้น โดยทั่วไปแล้วทีมแพทย์จะทำการประเมินโครงสร้างใบหน้าของผู้รับบริการก่อน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ตรงตามความต้องการและดูเป็นธรรมชาติที่สุด การศัลยกรรมคางนี้จึงมักจะช่วยเพิ่มความมั่นใจและความสวยงามให้กับผู้ที่ทำ
Dream Plastic Surgery ใช้เทคนิคการผ่าตัดโครงหน้า
ทีหลายแบบเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดและตอบสนองความต้องการของผู้ป่วยอย่างมีประสิทธิภาพ นี่คือเทคนิคหลักที่ใช้ในการผ่าตัดโครงหน้า:
1. **เทคนิคการลดกราม (Mandibular Contouring)**
- **รายละเอียด:** การทำให้กรามดูเรียวและคมชัดขึ้น โดยการตัดกระดูกกรามเพื่อปรับขนาดและรูปร่างให้เหมาะสม
- **ข้อดี:** ช่วยให้โครงหน้าเรียวและมีความเป็นสมดุล
- **ข้อเสีย:** อาจมีการฟื้นตัวที่ยาวนานและอาการบวมในช่วงแรก
2. **เทคนิคการลดคาง (Chin Reduction)**
- **รายละเอียด:** การลดขนาดของคางเพื่อให้โครงหน้าดูเรียวและมีความสมดุลมากขึ้น
- **ข้อดี:** ทำให้คางดูเล็กลงและไม่เด่นเกินไป
- **ข้อเสีย:** อาจมีรอยแผลเป็นและความไม่สะดวกในระหว่างการฟื้นตัว
3. **เทคนิคการเสริมคาง (Chin Augmentation)**
- **รายละเอียด:** การเสริมคางด้วยวัสดุเสริม เช่น ซิลิโคน หรือวัสดุอื่นๆ เพื่อให้คางดูยาวและมีความโดดเด่น
- **ข้อดี:** ช่วยให้โครงหน้ามีความเด่นและมีมิติที่ชัดเจน
- **ข้อเสีย:** อาจมีความเสี่ยงต่อการตอบสนองต่อวัสดุเสริม
4. **เทคนิคการปรับโหนกแก้ม (Cheekbone Reduction/Augmentation)**
- **รายละเอียด:** การลดขนาดหรือเพิ่มขนาดของโหนกแก้มเพื่อปรับให้มีความสมดุลกับส่วนอื่นๆ ของใบหน้า
- **ข้อดี:** ช่วยให้โครงหน้าดูเรียบและมีความสมดุล
- **ข้อเสีย:** อาจต้องใช้เวลาฟื้นตัวและการดูแลหลังการผ่าตัด
5. **เทคนิคการยกกระชับใบหน้า (Face Lifting)
- **รายละเอียด:** การยกกระชับผิวหนังและกล้ามเนื้อใบหน้าเพื่อลดสัญญาณแห่งความแก่ เช่น การทำ Facelift เพื่อยกกระชับและลดรอยย่น
- **ข้อดี:** ช่วยให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์และกระชับ
- **ข้อเสีย:** อาจมีรอยแผลเป็นและต้องใช้เวลาฟื้นตัว
6. **เทคนิคการตัดกระดูก (Osteotomy)**
- **รายละเอียด:** การตัดและจัดเรียงกระดูกใบหน้าใหม่ เช่น การตัดกระดูกกรามหรือกระดูกโหนกแก้มเพื่อลดหรือปรับรูปร่าง
- **ข้อดี:** ช่วยในการปรับเปลี่ยนโครงหน้าอย่างถาวร
- **ข้อเสีย:** เป็นการผ่าตัดที่ซับซ้อนและต้องการการฟื้นตัวที่ดี
การเลือกเทคนิคการผ่าตัดที่เหมาะสมควรปรึกษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดและตอบสนองความต้องการของแต่ละบุคคลอย่างครบถ้วนค่ะ
การพักฟื้นหลังการผ่าตัดโครงหน้า ANNYEONG AGENCY ให้มืออาชีพดูแลคุณ
เป็นขั้นตอนที่สำคัญเพื่อให้ผลลัพธ์ที่ดีและลดความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อน นี่คือแนวทางการพักฟื้นที่ควรปฏิบัติตามหลังการผ่าตัด:
1. การดูแลหลังการผ่าตัด**
- **การพักผ่อน:** ควรพักผ่อนให้เพียงพอในช่วง 1-2 สัปดาห์แรกหลังการผ่าตัด เพื่อให้ร่างกายมีเวลาฟื้นตัวและลดความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อน
- **การยกหัว:** การนอนหงายและยกหัวให้สูงขึ้นโดยใช้หมอนหลายใบสามารถช่วยลดการบวมและเลือดคั่งในบริเวณที่ผ่าตัด
2. การจัดการกับอาการบวมและฟกช้ำ**
- **การประคบเย็น:** ใช้ถุงน้ำแข็งหรือเจลเย็นประคบบริเวณที่มีการผ่าตัดเพื่อลดอาการบวมและฟกช้ำ
- **การใช้ยาตามที่แพทย์สั่ง:** รับประทานยาตามที่แพทย์แนะนำเพื่อบรรเทาอาการปวดและลดการอักเสบ
3. การดูแลบาดแผล**
- **การทำความสะอาด:** รักษาความสะอาดของบาดแผลตามคำแนะนำของแพทย์ เพื่อป้องกันการติดเชื้อ
- **การเปลี่ยนผ้าพันแผล:** เปลี่ยนผ้าพันแผลและทำตามคำแนะนำของแพทย์เกี่ยวกับการดูแลแผล
4. การควบคุมอาหารและการดื่มน้ำ**
- **อาหารที่เหมาะสม:** รับประทานอาหารที่อ่อนนุ่มและง่ายต่อการย่อย เช่น ซุป, โยเกิร์ต, และผลไม้ที่ปรุงสุก เพื่อลดความยุ่งยากในการเคี้ยวและกลืน
- **การดื่มน้ำ:** ดื่มน้ำมากๆ เพื่อให้ร่างกายได้รับความชุ่มชื้นและช่วยในการฟื้นตัว
5. การหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่หนัก**
- **การออกกำลังกาย:** หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนักหรือกิจกรรมที่ต้องใช้แรงมากในช่วงสัปดาห์แรก เพื่อป้องกันความเครียดที่อาจส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัว
6. การติดตามผลกับแพทย์**
- **การตรวจติดตาม:** เข้าพบแพทย์ตามนัดเพื่อให้แพทย์ตรวจสอบผลการผ่าตัดและความก้าวหน้าในการฟื้นตัว
การพักฟื้นที่ดีจะช่วยให้ผลลัพธ์ของการผ่าตัดออกมาดีที่สุดและช่วยลดความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อน อย่าลืมปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัดเพื่อให้การฟื้นตัวเป็นไปอย่างราบรื่นและปลอดภัยค่ะ
โรงพยาบาลดรีมเกาหลี มีเทคนิคการผ่าตัด
เทคนิคเฉพาะทางที่เน้นความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ โดยรวมถึง:
1. **การวิเคราะห์ใบหน้าแบบ 3 มิติ**: เพื่อประเมินโครงสร้างใบหน้าและวางแผนการผ่าตัดอย่างละเอียด โดยใช้เทคโนโลยีการสร้างภาพสามมิติที่ช่วยให้เห็นภาพก่อนและหลังการทำศัลยกรรมได้ชัดเจน
2. **การใช้เทคนิคการผ่าตัดแบบไม่น่ากลัว (Minimally Invasive Techniques)**: เทคนิคการทำศัลยกรรมที่มีแผลเล็กลง ลดระยะเวลาฟื้นตัว และช่วยให้ผู้ป่วยมีอาการบวมและฟกช้ำน้อยลง
3. **การใช้วัสดุที่มีคุณภาพสูง**: สำหรับการเสริม เช่น ซิลิโคนหรือวัสดุที่ใช้ในการเสริมจมูกและคาง มีมาตรฐานสูงเพื่อลดความเสี่ยงและเพิ่มความปลอดภัย
4. **ทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ**: ทีมแพทย์ที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในด้านการศัลยกรรมความงาม โดยเฉพาะในการทำศัลยกรรมเกาหลี
5. **การดูแลหลังการผ่าตัด**: มีระบบการดูแลและติดตามผลหลังการผ่าตัดอย่างใกล้ชิด เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับการฟื้นฟูอย่างมีประสิทธิภาพ
เทคนิคเหล่านี้มุ่งหวังให้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดสำหรับผู้รับบริการ และเสริมสร้างความมั่นใจในความสวยงามที่เป็นธรรมชาติค่ะ
จุดเด่นของโรงพยาบาลศัลยกรรมดรีม
โรงพยาบาลศัลยกรรมดรีมยึดมั่นในจรรยาบรรณและการบริการเป็นอันดับ 1
โรงพยาบาลศัลยกรรมดรีมคือสถานที่คิดค้น วิจัย และพัฒนาศัลยแพทย์
โรงพยาบาลศัลยกรรมดรีมมีระบบการดูแลความปลอดภัยและความพึงพอใจที่ดีที่สุด
ระบบปรึกษาแบบ Case by Case หรือหนึ่งต่อหนึ่งกับศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
ตัวอย่างเคสของดารา ไอดอล และคนดังของเกาหลี
ที่เคยใช้บริการกับ Hospital Groups ของโรงพยาบาลศัลยกรรมดรีม
BTS THE BOYZ VIXX
โรงพยาบาลศัลยกรรมดรีมพัฒนาตัวเองอย่างไม่หยุดยั้งจนกลายเป็น GLOBAL DREAM ที่สามารถกระจายสาขาไปเมืองใหญ่ๆ ทั่วโลกได้
ในด้านการศัลยกรรมโรงพยาบาลศัลยกรรมดรีม ก็ได้มีการพัฒนาและเพิ่มหมวดหมู่การศัลยกรรม เพื่อให้ครอบคลุมไปทุกส่วนเท่าที่ลูกค้าต้องการ
_(85).png)
_(84).png)
การศัลยกรรมเสริมหน้าอก โรงพยาบาลดรีม
### **1. การเสริมหน้าอกด้วยซิลิโคน (Silicone Implants)**
- **เหมาะกับ:** ผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติและรู้สึกเหมือนเนื้อเต้านมจริง การใช้ซิลิโคนมักจะเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเพิ่มขนาดของหน้าอกอย่างมีประสิทธิภาพและไม่ต้องการการปรับขนาดบ่อย
### **2. การเสริมหน้าอกด้วยน้ำเกลือ (Saline Implants)**
- **เหมาะกับ:** ผู้ที่ต้องการการปรับขนาดที่สามารถทำได้หลังการผ่าตัดและมีความเสี่ยงต่ำต่อปัญหาของวัสดุที่ใช้ เนื่องจากหากถุงน้ำเกลือแตก น้ำเกลือจะถูกดูดซึมโดยร่างกาย
### **3. การเสริมหน้าอกด้วยการยกหน้าอก (Breast Lift with Implants)**
- **เหมาะกับ:** ผู้ที่มีปัญหาหน้าอกหย่อนคล้อยหรือมีการสูญเสียความกระชับ ต้องการยกกระชับหน้าอกและเพิ่มขนาดในเวลาเดียวกัน เช่น ผู้ที่มีการเปลี่ยนแปลงของหน้าอกจากการตั้งครรภ์หรือการลดน้ำหนัก
### **4. การเสริมหน้าอกผ่านทางใต้รักแร้ (Transaxillary Approach)**
- **เหมาะกับ:** ผู้ที่ต้องการหลีกเลี่ยงรอยแผลเป็นที่หน้าอกและเน้นการรักษาความสะอาดของรอยแผลเป็นให้ดีที่สุด การผ่าตัดทางใต้รักแร้มักเหมาะสำหรับผู้ที่มีความกังวลเกี่ยวกับรอยแผลเป็นที่อาจเห็นได้ชัด
### **5. การเสริมหน้าอกผ่านทางร่องใต้เต้านม (Inframammary Approach)**
- **เหมาะกับ:** ผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่มีการควบคุมที่ดี และต้องการรอยแผลเป็นที่ซ่อนอยู่ในร่องใต้เต้านม ซึ่งจะมองเห็นได้ยากเมื่อหน้าอกมีการเปลี่ยนแปลง
### **6. การเสริมหน้าอกผ่านทางปานนม (Periareolar Approach)**
- **เหมาะกับ:** ผู้ที่ต้องการรอยแผลเป็นที่ไม่เด่นชัดและต้องการผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ การผ่าตัดผ่านขอบปานนมสามารถซ่อนรอยแผลเป็นได้ดีในกรณีที่ปานนมมีขนาดใหญ่พอสมควร
การเลือกเทคนิคที่เหมาะสมควรได้รับการปรึกษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่ LINE: @AnnyeongAgency เพื่อประเมินความต้องการและสภาพร่างกายของคุณอย่างละเอียด และเลือกวิธีที่ตอบโจทย์เป้าหมายของคุณอย่างดีที่สุดค่ะ
Dream Plastic Surgery ใช้เทคนิคการผ่าตัดเสริมหน้าอกที่หลากหลายเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและปลอดภัย โดยการเลือกเทคนิคจะขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้ป่วยและสภาพทางกายภาพของแต่ละบุคคล นี่คือเทคนิคหลักที่ใช้ในการผ่าตัดเสริมหน้าอกที่ Dream Plastic Surgery:
### **1. การเสริมหน้าอกด้วยซิลิโคน (Silicone Implants)**
- **รายละเอียด:** การใช้ซิลิโคนเจลหรือซิลิโคนชนิดน้ำในการเสริมหน้าอก ซึ่งมีความยืดหยุ่นและรู้สึกเหมือนเนื้อเต้านมธรรมชาติ
- **ข้อดี:** ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติและให้ความรู้สึกดีเหมือนเนื้อเต้านมจริง
- **ข้อเสีย:** อาจมีความเสี่ยงต่อการเกิดปัญหาเกี่ยวกับการติดเชื้อหรือการแตกของซิลิโคน
### **2. การเสริมหน้าอกด้วยน้ำเกลือ (Saline Implants)**
- **รายละเอียด:** การใช้ถุงน้ำเกลือที่เติมน้ำเกลือเพื่อเพิ่มขนาดของหน้าอก
- **ข้อดี:** สามารถปรับขนาดของถุงน้ำเกลือได้หลังการผ่าตัด และหากเกิดการแตกจะไม่เป็นอันตราย
- **ข้อเสีย:** อาจรู้สึกไม่เป็นธรรมชาติและมีโอกาสเกิดปัญหาการยุบตัวของถุงน้ำเกลือ
### **3. การเสริมหน้าอกด้วยการยกหน้าอก (Breast Lift with Implants)**
- **รายละเอียด:** การผ่าตัดยกหน้าอกพร้อมการเสริมด้วยซิลิโคนหรือวัสดุอื่นๆ เพื่อยกกระชับและเพิ่มขนาดของหน้าอก
- **ข้อดี:** ช่วยให้หน้าอกดูมีรูปร่างดีขึ้นและกระชับมากขึ้น
- **ข้อเสีย:** การฟื้นตัวอาจใช้เวลานานกว่าการเสริมหน้าอกเพียงอย่างเดียว
### **4. การเสริมหน้าอกผ่านทางใต้รักแร้ (Transaxillary Approach)**
- **รายละเอียด:** การทำการผ่าตัดผ่านทางใต้รักแร้เพื่อเสริมหน้าอก โดยไม่ทิ้งรอยแผลเป็นที่หน้าอก
- **ข้อดี:** ไม่มีรอยแผลเป็นที่หน้าอก
- **ข้อเสีย:** อาจมีความซับซ้อนในการผ่าตัดมากกว่าและต้องการความเชี่ยวชาญสูง
### **5. การเสริมหน้าอกผ่านทางร่องใต้เต้านม (Inframammary Approach)**
- **รายละเอียด:** การทำการผ่าตัดผ่านทางร่องใต้เต้านมเพื่อใส่ซิลิโคน
- **ข้อดี:** รอยแผลเป็นจะอยู่ในร่องใต้เต้านมซึ่งมักจะไม่เห็นได้ง่าย
- **ข้อเสีย:** รอยแผลเป็นอาจมองเห็นได้ในช่วงแรก แต่จะค่อยๆ จางลง
### **6. การเสริมหน้าอกผ่านทางปานนม (Periareolar Approach)**
- **รายละเอียด:** การทำการผ่าตัดผ่านขอบของปานนมเพื่อใส่ซิลิโคน
- **ข้อดี:** รอยแผลเป็นจะซ่อนอยู่ที่ขอบปานนมซึ่งไม่เด่นชัด
- **ข้อเสีย:** อาจมีความเสี่ยงต่อการเปลี่ยนแปลงของสัมผัสที่ปานนม
การเลือกเทคนิคที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการเสริมหน้าอกควรได้รับการพิจารณาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดและตอบสนองความต้องการของแต่ละบุคคลอย่างครบถ้วนค่ะ
.jpg)
ANNYEONG AGENCY ให้มืออาชีพดูเเลคุณ การพักฟื้นหลังการผ่าตัดเสริมหน้าอก
มีความสำคัญเพื่อให้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดและลดความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อน นี่คือแนวทางการพักฟื้นที่ควรปฏิบัติตาม:
1. การพักผ่อนและการฟื้นตัว**
- **พักผ่อน:** ควรพักผ่อนอย่างเพียงพอในช่วง 1-2 สัปดาห์แรกหลังการผ่าตัด เพื่อให้ร่างกายมีเวลาฟื้นตัว
- **การยก** หลีกเลี่ยงการยกน้ำหนักหรือการทำกิจกรรมที่ต้องใช้แรงมากในช่วง 4-6 สัปดาห์แรก
2. การจัดการกับอาการบวมและฟกช้ำ**
- **การประคบเย็น:** ใช้ถุงน้ำแข็งหรือเจลเย็นประคบบริเวณหน้าอกเพื่อลดอาการบวมและฟกช้ำ
- **การใช้ยา:** รับประทานยาตามที่แพทย์สั่งเพื่อบรรเทาอาการปวดและลดการอักเสบ
3. การดูแลบาดแผล**
- **การทำความสะอาด:** รักษาความสะอาดของบาดแผลตามคำแนะนำของแพทย์เพื่อป้องกันการติดเชื้อ
- **การเปลี่ยนผ้าพันแผล:** เปลี่ยนผ้าพันแผลและดูแลแผลตามคำแนะนำของแพทย์
4. การสวมใส่เสื้อในหลังการผ่าตัด**
- **เสื้อในพยาบาล:** สวมเสื้อในหลังการผ่าตัดตามที่แพทย์แนะนำเพื่อช่วยในการรักษารูปทรงของหน้าอกและลดการเคลื่อนไหวของเต้านม
5. การควบคุมอาหารและการดื่มน้ำ**
- **อาหารที่เหมาะสม:** รับประทานอาหารที่มีสารอาหารที่จำเป็นเพื่อช่วยในการฟื้นตัว เช่น ผลไม้สด ผัก และโปรตีน
- **การดื่มน้ำ:** ดื่มน้ำมากๆ เพื่อให้ร่างกายได้รับความชุ่มชื้นและช่วยในการฟื้นตัว
6. การหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่หนัก**
- **การออกกำลังกาย:** หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนักหรือกิจกรรมที่ต้องใช้แรงมากในช่วง 4-6 สัปดาห์แรก เพื่อป้องกันการเคลื่อนไหวของหน้าอกที่อาจส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัว
7. ANNYEONG AGENCY คอยติดตามผลกับแพทย์**
- **Check Up อาการ** เข้าพบแพทย์ตามนัดเพื่อตรวจสอบผลการผ่าตัดและความก้าวหน้าในการฟื้นตัว
การปฏิบัติตามคำแนะนำเหล่านี้จะช่วยให้การฟื้นตัวหลังการผ่าตัดเสริมหน้าอกเป็นไปอย่างราบรื่นและลดความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อนค่ะ
การศัลยกรรมชะลอวัยโรงพยาบาลศัลยกรรมดรีม
เทคนิคการผ่าตัด DREAM เน้นความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ :
2. **การใช้เทคนิคการผ่าตัดแบบไม่น่ากลัว (Minimally Invasive Techniques)**: เทคนิคการทำศัลยกรรมที่มีแผลเล็กลง ลดระยะเวลาฟื้นตัว และช่วยให้ผู้ป่วยมีอาการบวมและฟกช้ำน้อยลง
3. **การใช้วัสดุที่มีคุณภาพสูง**: สำหรับการเสริม เช่น ซิลิโคนหรือวัสดุที่ใช้ในการเสริมจมูกและคาง มีมาตรฐานสูงเพื่อลดความเสี่ยงและเพิ่มความปลอดภัย
4. **ทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ**: ทีมแพทย์ที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในด้านการศัลยกรรมความงาม โดยเฉพาะในการทำศัลยกรรมเกาหลี
5. **การดูแลหลังการผ่าตัด**: มีระบบการดูแลและติดตามผลหลังการผ่าตัดอย่างใกล้ชิด เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับการฟื้นฟูอย่างมีประสิทธิภาพ
เทคนิคเหล่านี้มุ่งหวังให้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดสำหรับผู้รับบริการ และเสริมสร้างความมั่นใจในความสวยงามที่เป็นธรรมชาติค่ะ
ราคาศัลยกรรมที่ Dream Plastic Surgery
1. **ศัลยกรรมตา**: ราคาประมาณ 3,000,000 - 5,000,000 วอน
2. **ศัลยกรรมจมูก**: ราคาประมาณ 5,000,000 - 15,000,000 วอน
3. **ศัลยกรรมใบหน้า (โหนกแก้ม, กราม, คาง)**: ราคาประมาณ 9,000,000 - 24,000,000 วอน
4. **ศัลยกรรมหน้าอก**: ราคาประมาณ 10,000,000 - 20,000,000 วอน
5. **การดูดไขมัน**: ราคาประมาณ 5,000,000 - 10,000,000 วอนต่อส่วนของร่างกาย
ทั้งนี้ ราคาดังกล่าวเป็นเพียงการประมาณการเท่านั้น ควรติดต่อที่ปรึกษาที่ LINE: @AnnyeongAgency เพื่อรับข้อมูลที่แน่นอนเกี่ยวกับราคาตามประเภทของการผ่าตัดที่คุณสนใจค่ะ
ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ รับโปรดีๆ LINE: @AnnyeongAgency
